หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2556

แปลกดี! หัวไชเท้าประหลาด รูปร่างเหมือนคนวิ่ง



  เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ เปิดเผยภาพหัวไชเท้าญี่ปุ่นที่ทำให้คุณ ๆ ต้องอมยิ้ม เมื่อรูปทรงของมันช่างคล้ายกับคนวิ่งเสียนี่กระไร จนทำให้เจ้าของแปลงผักที่พบมัน จับมาถ่ายรูปใส่สตอรี่ให้มันเสียหน่อย งานนี้เลยยิ่งคล้ายกับหัวไชเท้ากำลังวิ่งหนีเข้าไปใหญ่




  หัวไชเท้าวิ่งหนีหัวนี้ ถูกค้นพบตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดย มินาโกะ ชิบาตะ วัย 36 ปี หญิงชาวไร่จากจังหวัดเฮียวโกะของญี่ปุ่น โดยหลังจากที่เขาขุดหัวไชเท้าจากแปลงขึ้นมาเพื่อนำไปขายตามปกติ เขาก็ต้องแปลกใจกับหัวไชเท้าหัวนี้ เพราะมันมีรูปร่างคล้ายกับคนวิ่ง จึงรีบเอาไปอวดสามีของเธอ จากนั้นก็จัดการถ่ายภาพสร้างสตอรี่ให้กับมัน ให้ดูเหมือนกับมันกำลังวิ่งหนี หรือกำลังกระโดดข้ามแปลงผัก จากนั้นก็นำไปโพสต์ลงในโซเชียลเน็ตเวิร์ก จนกลายเป็นภาพที่ทำให้ผู้ชมได้อมยิ้มไปตาม ๆ กัน
          และไม่เพียงแค่นั้น ล่าสุด เจ้าหัวไชเท้าหัวนี้ได้ถูกนำมาเป็นภาพโปรโมทผลิตภัณฑ์อาหารท้องถิ่นของจังหวัดเฮียวโกะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ compmaint สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556

เมื่อ แกรนด์ แคนยอน ถูกปกคลุมด้วยสีขาวในช่วงหิมะตก






 หากพูดถึงสถานที่เที่ยวซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกอย่าง แกรนด์ แคนยอน (Grand Canyon) อยู่ในเขตมลรัฐอริโซนา สหรัฐอเมริกา ที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายภาพน่าหวาดเสียวบนโขดหิดกันเป็นประจำแล้ว หลาย ๆ คนอาจคุ้นเคยกับภาพความแห้งแล้งกันเป็นอย่างดี

          แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าความงามในช่วงหน้าหนาวของที่นี่ก็สวยไม่แพ้กันเลย โดยในช่วงฤดูหนาวที่นี่จะถูกปกคลุมด้วยหิมะจนกลายเป็นสีขาวโพลนไปทั่ว เกิดเป็นบรรยากาศที่สวยงามเหมือนหลุดไปอยู่ในโลกของเทพนิยายเลยทีเดียว แม้จะต้องทนกับความหนาวเย็นอยู่สักหน่อย แต่ก็นับว่าคุ้มค่าล่ะนะ



โดยที่นี่มีจุดชมวิวสวย ๆ ที่สามารถมองเห็นแม่น้ำโคโลราโด (Colorado) ได้อย่างชัดเจน ไว้บริการนักท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น พอยน์ท อิมพีเรียล (Point Imperial) ที่นักท่องเที่ยวจะได้ล่องแก่งชมวิวไปตามน้ำ และ แคพ รอยัล (Cape Royal) ที่เดินทางด้วยการเดินเท้าหรือใช้ล่อเป็นพาหนะ ซึ่งแต่ละแบบก็มีเสน่ห์แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของแต่ละ
คน




  หรือถ้าคุณเป็นนักเดินทางที่ชอบความตื่นเต้นสักหน่อย อาจเลือกชมวิวแบบหวาดเสียวเล็กน้อย ด้วยการขึ้นไปชมวิวบนสกายวอล์ก (Skywalk) ที่มีพื้นเป็นกระจกใสมองลงไปเห็นด้านล่างซึ่งอยู่ห่างไกลออกไปถึง 1,219 เมตร ได้เช่นกัน โดยค่าเข้าชมมีราคาอยู่ที่ 49.95 - 199 เหรียญสหรัฐ หรือราว 1,750 - 7,000 บาท



  ถ้าใครอยากรู้ว่า ทิวทัศน์ในช่วงหิมะตกที่ แกรนด์ แคนยอน จะสวยขนาดไหน ก็ลองไปดูรูปสวย ๆ ที่กระปุกท่องเที่ยวรวบรวมมาฝากกันเลยดีกว่าค่ะ หรือถ้าใครอยากสัมผัสบรรยากาศดี ๆ แบบนี้ด้วยตาตัวเองสักครั้ง อาจวางแผนพาเพื่อน ๆ หรือครอบครัวไปเที่ยวกันในช่วงวันหยุดยาวก็ไม่เลวเหมือนกันนะคะ




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ครอบครัวราพันเซล ผมยาวเฟื้อยกันทั้งครอบครัว




ใครที่คิดว่าตัวเองผมยาวมากแล้ว ลองมาเปรียบเทียบกับคุณแม่เทอเรอลินน์ รัสเซล วัย 43 ปี ที่มีผมยาวเหยียดกว่า 6 ฟุต (ประมาณ 1.8 เมตร) ดูสิ แถมยังไม่ใช่แค่คุณแม่คนเดียวเท่านั้นที่ผมยาวเฟื้อยขนาดนี้ ลูกสาวของเธออีก 3 คนก็กำลังเจริญรอยตามไปติด ๆ ด้วยผมที่ยาวเหยียดแผ่สยายเต็มแผ่นหลัง และยังปิดคลุมไปถึงสะโพกเลยแน่ะ นี่ล่ะ ครอบครัวราพันเซลตัวจริง!

          แม่ลูกผมยาวแห่งครอบครัวราพันเซลนี้ มาจากเมืองมอร์ริส รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐฯ ปัจจุบันนางเทอเรอลินน์มีผมที่ยาวกว่า 1.8 เมตร แถมมีรางวัลการันตีความยาวเฟื้อยของเส้นผมอีกหลายรายการ ซึ่งเธอมักจะได้รับรางวัลชนะเลิศเสมอหากมีการประกวดสาวผมยาว หรือผู้หญิงที่มัดผมม้าได้ยาวที่สุด นอกจากนี้ลูกสาวของเธออีก 3 คนต่างก็ไว้ผมยาว (มาก ๆ) เหมือนกับแม่ไม่มีผิด

          ไม่ต้องแปลกใจเลยล่ะว่าครอบครัวนี้จะต้องหมดเงินไปกับยาสระผม และครีมนวดผมมากขนาดไหน เทอเรอลินน์บอกว่าเธอหมดเงินเก็บไปจำนวนไม่น้อยกับการเข้าร้านทำผม ค่ายาสระและครีมนวดผม รวมทั้งกิ๊บติดผมด้วย โดยการสระผมของเธอแต่ละครั้ง เธอจะต้องบิดผมให้หมาดที่สุด ก่อนจะซับน้ำ ไดร์ผม กว่าจะแห้งสนิทก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมง นอกจากนี้เธอยังสอนให้ลูกสาวแต่ละคนผลัดกันทำผมถักเปียให้กันและกันด้วย

          แต่ก็ใช่ว่าเธอจะปล่อยให้ผมยาวเฟื้อยไปเปล่า ๆ ปลี้ ๆ เพียงอย่างเดียว นาน ๆ ปี เทอเรอลินน์ก็จะบริจาคเส้นผมของเธอกับลูก ๆ ให้กับมูลนิธิ Locks of Love เพื่อนำไปทำวิกผมให้ผู้ป่วยเด็กที่ต้องสูญเสียผมของตัวเองไป แม้การตัดแต่ละครั้งจะยาวไม่เกิน 20 นิ้ว แต่ก็นับว่ายาวมากแล้วสำหรับการนำไปทำวิกผม

          อย่างไรก็ดี เห็นผมยาวมาก ๆ ขนาดนี้ แต่คุณแม่ราพันเซลคนนี้ก็เคยมีช่วงเวลาที่ตัวเองผมสั้นอยู่เหมือนกัน โดยเธอได้เปิดเผยว่า "ตั้งแต่พอจะจำความได้ ฉันจำได้ว่าผมของฉันสั้นที่สุดตอนที่ฉันอายุ 4 ขวบ มันยาวไม่ถึงเอวเลย .. อ้อ ผมสั้นสำหรับฉันคือมันยาวไม่เลยเอวลงไปจ้ะ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  itysr.blogspot.com

โบสถ์ในฟลอริด้า หน้าตาเหมือนไก่



คงเคยมีบ่อยครั้งที่เรามองอาคารสิ่งสร้างต่าง ๆ ว่ามีลักษณะคล้ายกับสัตว์หรือหุ่นยนต์ และโบสถ์ริมหาดแห่งหนึ่งในรัฐฟลอริด้า ก็คงจะเป็นหนึ่งในนั้น เพราะถูกผู้คนมอกว่ามีลักษณะเหมือนไก่ จนได้รับชื่อเล่นสุดน่ารักว่า โบสถ์ไก่
            โดยเมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ รายงานว่า โบสถ์ไก่ แห่งนี้ ตั้งอยู่ริมชายหาดเมอเดร่า เมืองเทมปา เบย์ ในรัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา ด้วยลักษณะหน้าต่างทรงกลม ทำให้ดูคล้ายดวงตาทั้ง 2 ข้าง และหลังคาสีแดงที่ดูคล้ายจะงอยปาก ทำให้โบสถ์แห่งนี้มีลักษณะคล้ายไก่อย่างที่สุด ซึ่งด้วยลักษณะนี้เองที่ทำให้โบสถ์แห่งนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในสังคมออนไลน์ 
            จากความนิยมนั้น ทำให้มีผู้คนจำนวนมากที่พยายามสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับโบสถ์แห่งนี้ และมีนักท่องเที่ยวหลายรายที่เข้ามาเยี่ยมเยือนและถ่ายรูปโบสถ์ไว้เป็นที่ระลึก ด้าน ดี ดี ปาร์กเกอร์ สมาชิกของโบสถ์ไก่ แห่งนี้ได้เผยว่า เธอและสมาชิกคนอื่น ๆ รู้สึกยินดีที่โบสถ์ไก่ทำให้ผู้คนมีความสุข เธอดีใจที่รูปของโบสถ์ไก่จะทำให้ผู้คนยิ้มได้ แต่เธอไม่คาดคิดจริง ๆ ว่ามันจะกลายมาเป็นที่นิยมอย่างมากในอินเทอร์เน็ต

            ทั้งนี้ โบสถ์ริมหาดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มชาวประมง ในปี ค.ศ. 1944 เพื่อใช้เป็นที่ให้แสงสว่างสำหรับส่องทางให้ชาวประมงสามารถนำเรือกลับเข้าฝั่งได้ ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่ได้ตั้งใจให้โบสถ์ที่ลักษณะคล้ายไก่แต่อย่างไร และมันก็เป็นที่ขำขันของสมาชิกโบสถ์คนอื่น ๆ เมื่อพวกเขาพบว่าโบสถ์ของพวกเขามีหน้าตาคล้ายกับไก่อย่างยิ่ง



เรียบเรียงข้อมูลโดยประปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก foundshit.com

ทวดมะกันสุดปลื้ม จบไฮสกูลตอนอายุ 106 ปี



 เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2556 สำนักข่าวเอพี รายงานว่า นายเฟร็ด บัทเลอร์ คุณทวดชาวเมืองเบฟเวอร์ลี รัฐแมสซาชูเซตส์ของสหรัฐ วัย 106 ปี สุดปลื้มและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่ได้รับใบประกาศณียบัตรกิตติมศักดิ์รับรองว่า เขาได้จบการศึกษาระดับไฮสกูลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

            รายงานระบุว่า ชีวิตของคุณทวดบัทเลอร์เรียกได้ระหกระเหินมาตั้งแต่ยังเด็ก เพราะเขาต้องออกจากโรงเรียนตั้งแต่อยู่เกรด 9 เพื่อมาทำงานช่วยแม่ดูแลน้อง ๆ อีก 5 คน ต่อมาเขาต้องเข้าร่วมรบในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนที่จะทำงานที่การประปาท้องถิ่นเป็นเวลาหลายปีซึ่งตอนนี้เขาแต่งงานมาเป็นเวลา 65 ปีแล้ว มีลูกทั้งสิ้น 5 คน แต่สิ่งที่ยังคาใจเขาอยู่ตลอดมาก็คือ เขายังไม่เคยได้รับประกาศนียบัตรเพื่อรับรองว่าเขาได้จบการศึกษาระดับไฮสกูลมาก่อนเลย
            โดย เคธี บัทเลอร์ ลูกสะใภ้ เล่าว่า นายเฟร็ด บัทเลอร์ รู้สึกเสียใจมาโดยตลอดที่เขาไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ เพราะเขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับการศึกษามาก เขาจึงมุ่งมั่นที่จะต้องให้ลูกและหลานทุกคนได้เรียนหนังสือ และที่สำคัญเขายังมีรางวัลให้กับหลาน ๆ โดยจะให้เงิน 5 เหรียญ หากได้เกรด A ในแต่ละวิชาอีกด้วย..


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Suzanne Kreiter

หนุ่มอังกฤษคลั่งสัก สักทั้งตัวไม่เว้นแม้แต่ดวงตา






เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2556 เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ รายงานว่า นายแมทธิว วีแลน ชายชาวอังกฤษวัย 33 ปี คลั่งไคล้การสักตามร่างกายมาก จนกระทั่งตอนนี้เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีส่วนไหนของร่างกายเขาที่ไร้รอยสัก ไม่เว้นแม้กระทั่งลูกกะตา และรอยสักเหล่านี้ก็ทำให้ไม่มีใครจ้างเขาเข้าทำงาน กลายเป็นคนไม่มีงานทำในที่สุด

            รายงานระบุว่า นายแมทธิว วีแลน หรือที่เขาตั้งใจชื่อใหม่ให้กับตัวเองว่า "King of Inkland" โดยเขาได้เปิดเผยว่า เขาใช้เวลาในการสักตามร่างกายรวมแล้วมากถึง 300 ชั่วโมง และหมดเงินไปกว่า 2 หมื่นปอนด์ (ราว 1 ล้านบาท) จนตอนนี้ เขามีรอยสักตามร่างกายถึง 80% แล้ว และที่สำคัญเขายังสักไปถึงลูกกะตาเลย แม้ว่าเขาจะตระหนักดีว่าอาจจะได้รับความเสี่ยงจากอาการติดเชื้อต่าง ๆ ก็ตาม



นายวีแลน เล่าต่อไปว่า เขาคลั่งไคล้รอยสักมาก หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นลัทธินิยมรอยสัก ซึ่งเขามองว่ามันเป็นความชื่นชอบ ความเชื่อ และไลฟ์สไตล์ส่วนบุคคล ที่แต่ละคนสามารถแต่งแต้มสีสันลงบนร่างกายได้เหมือนกับเป็นผลงานศิลปะชิ้นหนึ่ง ส่วนตอนนี้เขาทำงานเป็นอาสาสมัครอยู่ในพรรคเสรีประชาธิปไตย ในเมืองเบอร์มิงแฮม เพื่อช่วยสนับสนุนสิทธิในการสักตามร่างกายของพนักงานในสถานที่ต่าง ๆ เพราะเขาคิดว่าไม่ควรแบ่งแยกคนที่สักร่างกายว่าเป็นพวกนอกคอกในสังคม





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ WorldsViralNews สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

ชาร์จมือถือ ด้วย แก้วกาแฟร้อนๆ หรือ ประป๋องเบียร์เย็นๆ



ต้องบอกว่าผมชอบไอเดียนี้มากเลย ที่ชาร์จมือถือ ที่ใช้พลังงานความร้อนจากแก้วกาแฟ หรือจะใช้พลังงานความเย็น จากแก้วเครื่องดื่มใส่น้ำแข็งอย่างกระป๋องเบียร์เย็นๆ ก็ได้


รายละเอียด


  1. ที่ชาร์จมือถือนี้มีชื่อว่า Puck โดยที่ชาร์จนี้จะมีแผ่นสำหรับตั้งแก้วโดยด้านหนึ่งจะมีสีแดงสำหรับวางแก้วเครื่องดื่มร้อน ส่วนอีกด้านหนึ่งมีสีฟ้าเพื่อใช้วางแก้วเครื่องดื่มเย็น โดยเครื่องชาร์จนี้จะแปลงความร้อน หรือความเย็นไปเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้ชาร์จมือถือ
  2. ที่ชาร์จนี้ได้หยิบยืมแนวคิดของเครื่องยนต์สเตอร์ลิง(Stirling engine) ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยนายโรเบิร์ต สเตอร์ลิง(Robert Stirling) ตั้งแต่ปี 1816 โดยภายในเครื่องยนต์สเตอร์ลิง จะอัดแก๊สไว้เมื่อได้รับความร้อนแก๊สจะขยายตัว เป็นการเปลี่ยนความร้อนไปเป็นพลังงาน
  3. โดยตอนนี้ บริษัท Epiphany Labs กำลังอยู่ระหว่างสร้างที่ชาร์จต้นแบบ และคาดว่าจะสามารถวางตลาดได้ในปี 2014 ในราคาประมาณ 73 ปอนด์(ปล. ปัจจุบันที่ชาร์จ Puck นี้กำลังอยู่ในช่วงระดมทุนจากเว็บ Kickstarter)





อ้างอิงโดย
http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2277095/How-cuppa-charge-phone-The-battery-booster-powered-hot-cup-coffee-cold-beer.html

ซาลาแมนเดอร์ไฟ สองหัว



แค่ตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับ ซาลาแมนเดอร์ไฟ ที่กล่าวว่าพวกมันถือกำเนิดขึ้นมาจากกองไฟนั้นก็ประหลาดมากแล้ว แต่ตัวนี้ดันมีสองหัวอีกจะประหลาดไปไหนเนี้ย


รายละเอียด

  1. ซาลาแมนเดอร์ไฟเป็นสัตว์ที่มีถิ่นอาศัยในป่าของยุโรป พวกมันชอบอาศัยในโพรงของต้นไม้ ในสมัยก่อนเมื่อคนตัดไม้เพื่อมาทำฟืน พอนำฟืนมาก่อไฟความร้อนจากไฟจะทำให้ ซาลาแมนเดอร์หนีออกมาจากกองไฟ เมื่อคนเห็นดังนั้นก็คิดว่าซาลาแมนเดอร์เหล่านี้ถือกำเนิดขึ้นมาจากกองเพลิง จะเรียกพวกมันว่า ซาลาแมนเดอร์ไฟ(Fire salamander)
  2. ซาลาแมนเดอร์ไฟตัวนี้(Mutant fire salamander)เป็นสัตว์สะสมส่วนตัวของนักเพาะเลี้ยงสัตว์ ที่พยายามจะป้อนอาหารให้มันแต่ก็ยื้อชีวิตมันได้แค่ 6 เดือน
  3. หลังซาลาแมนเดอร์ไฟตัวนี้ตายเขาได้บริจาคซากของมันให้แด่ มหาวิทยาลัย the Martin Luther University ใน Halle ประเทศเยอรมัน
  4. การที่สัตว์มีสภาพสองหัวนี้มีชื่อเรียกว่า polycephaly โดยแต่ละหัวจะมีสองเป็นของตัวเอง สมองแต่ละอันจะแบ่งหน้าที่รับผิดชอบควบคุมอวัยวะกัน

อ้างอิงโดย
http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2277580/Two-heads-NOT-better-Mutant-salamander-lived-just-months-donated-German-university.html


น้องเหมียวที่ กลุ้มที่สุดในโลก



แซม(Sam) จากแมวจรจัดในนิวยอร์กกลายเป็นน้องเหนียวสุด Hot ในอินสตาแกรม(ขณะนี้แซมมีคนติดตามกว่า 24,000) ด้วยคิ้วสีดำปลายตกตัดกับขนสีขาว ทำให้หน้าตามันดูตลกเหมือนแมวกลุ้มไม่มีตังค์ซื้อปลาทูกิน



อ้างอิงโดย 
http://www.telegraph.co.uk/technology/picture-galleries/9857250/Sam-the-cat-with-worried-eyebrows-becomes-an-Internet-sensation.html?frame=2474686

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More